3 ประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตร์
- หลักฐานที่จำแนกตามความสำคัญ
- หลักฐานชั้นต้น
- หลักฐานชั้นรอง
- หลักฐานที่ใช้อักษรเป็นตัวกำหนด
- หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร
- หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
- หลักฐานที่กำหนดตามจุดหมายของการผลิต
- หลักฐานที่มนุษย์ตั้งใจสร้างขึ้น
- หลักฐานที่มิได้เป็นผลผลิตที่มนุษย์สร้างหรือตั้งใจสร้าง
- หลักฐานที่จำแนกตามความสำคัญ
- หลักฐานชั้นต้น( primary sources) หมายถึง คำบอกเล่าหรือบันทึกของผู้พบเห็นเหตุการณ์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โดยตรง ได้แก่ บันทึกการเดินทาง จดหมายเหตุ จารึก รวมถึงสิ่งก่อสร้าง หลักฐานทางโบราณคดี โบราณสถาน โบราณวัตถุ เช่น โบสถ์ เจดีย์ วิหาร พระพุทธรูป รูปปั้น หม้อ ไห ฯลฯ
- หลักฐานชั้นรอง( secondary sources) หมายถึง ผลงานที่เขียนขึ้น หรือเรียบเรียงขึ้นภายหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นแล้ว โดยอาศัยคำบอกเล่า หรือจากหลักฐานชั้นต้นต่างๆ ได้แก่ ตำนาน วิทยานิพนธ์ เป็นต้น
- หลักฐานที่ใช้อักษรเป็นตัวกำหนด
- หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร (written sources) หมายถึง หลักฐานที่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้แก่ ศิลาจารึก พงศาวดาร ใบลาน จดหมายเหตุ วรรณกรรม ชีวประวัติ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร รวมถึงการบันทึกไว้ตามสิ่งก่อสร้างโบราณสถาน โบราณวัตถุ แผนที่ หลักฐานประเภทนี้จัดว่าเป็นหลักฐานสมัยประวัติศาสตร์
- หลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร หมายถึง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งหมดที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ได้แก่ สิ่งก่อสร้างโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปะการแสดง คำบอกเล่า นาฏศิลป์ ตนตรี จิตรกรรม ฯลฯ
- หลักฐานที่กำหนดตามจุดหมายของการผลิต
- หลักฐานที่มนุษย์ตั้งใจสร้างขึ้น artiface หมายถึง หลักฐานที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต
- หลักฐานที่มิได้เป็นผลผลิตที่มนุษย์สร้างหรือตั้งใจสร้าง หมายถึง วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการสืบค้นเรื่องราวในอดีตของสังคมมนุษย์เริ่มต้นที่ความอยากรู้อยากเห็นของผู้ต้องการ ศึกษาและต้องการสอบสวนค้นคว้า หาคำตอบด้วยตนเอง จากร่องรอยที่คนในอดีตได้ทำไว้และตกทอดเหลือมาถึงปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น